1. ควรเป็นระบบแผ่นกรอง HEPA Filters (High Efficiency Particulate Air Filter) ไม่ต้องมีการปล่อยประจุบวก ประจุลบ หรือโอโซนออกมา
a. ระบบไฟฟ้าสถิตย์ มีการปล่อยประจุไฟฟ้าเพื่อไปจับกับอนุภาค เมื่อใช้นานๆประสิทธิภาพมักลดลง และการเกิดไฟฟ้าสถิตย์ตลอดเวลาก็เป็นที่กังขากันเรื่องความปลอดภัยว่า ถ้าเราได้รับประจุไฟฟ้าต่อเนื่องนานๆจะเกิดโทษหรือไม่
b. โอโซนเป็นสารที่มีความระคายเคืองต่อปอดสูง (potent lung irritant) ในระดับที่มีความเข้มข้นสูงๆสามารถกระตุ้นให้เกิดโรคทางเดินหายใจได้ โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคหืด โรคปอดเรื้อรัง เด็กและผู้สูงอายุ...ดังนั้นโอโซนจากเครื่องฟอกอากาศจึงไม่เหมาะสำหรับฆ่าเชื้อโรคอาจก่อให้เกิดผลเสียมากกว่า
2. ขนาดของเครื่องและขนาดแผ่นกรองต้องสัมพันธ์กับปริมาตรของห้อง บางยี่ห้อเครื่องดูใหญ่ แต่ใส้กรองเล็ก ดีที่สุดต้องดูที่พื้นที่ผิวของแผ่นกรอง ยิ่งมากยิ่งดี
3. มีค่า Clean Air Delivery Rate (CADR)สูง ค่านี้แสดงว่าเครื่องสามารถกรองอากาศให้บริสุทธ์ได้เร็วแค่ไหน เป็นการวัดปริมาณอากาศที่ถูกฟอกออกมาเป็นลูกบาศก์ฟุตต่อนาที ค่านี้ยิ่งมากยิ่งดี
4. ราคาเครื่อง รวมทั้งราคาแผ่นใส้กรองทุกอย่างที่ต้องเปลี่ยนตามระยะเวลาที่กำหนด รวมทั้งบริการหลังการขาย ความสะดวกในการหาซื้อใส้กรองเปลี่ยน ถ้าใช้ไปนานๆยังจะมีใส้กรองรุ่นนั้นขายอยู่ไหม
5. ในต่างประเทศจะมีหน่วยงาน Association of Home Appliance Manufacturers (AHAM)ที่ช่วยให้คำแนะนำเปรียบเทียบคุณสมบัติของเครื่องฟอกอากาศและอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน รายใดได้มาตราฐานจะมีตรา AHAM ประทับที่สินค้า เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจง่ายขึ้น
ที่มา: โรคภูมิแพ้ ตอน แพ้ไรฝุ่น, ผู้เขียน ผศ. น.พ. เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ, พ.ญ. สิรินันท์ บุญยะลีพรรณ