CradleSmile@Play

สำหรับน้องอายุ 1.6-5 ปี เรียนเสาร์หรืออาทิตย์ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 2 ชั่วโมง โดย 50 นาทีแรกเป็น Phonics & Conversation (ใช้ Jolly Phonics Lesson) หลังจากพัก 10 นาทีจะต่อด้วยกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ทั้งการเคลื่อนไหว ดนตรี ศิลปะและเกมเชาว์ปัญญา กิจกรรมเหล่านี้ยังปลูกฝังให้น้องๆ พัฒนาทักษะเกี่ยวกับ Executive Functions (EF) ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่จะทำให้น้องๆ เติบโตเป็นคนมีคุณภาพและประสบความสำเร็จในชีวิต

ผู้ปกครองที่สนใจโปรแกรม CradleSmile@Play สามารถพาบุตรหลานมาทดลองเรียนครั้งแรกได้ฟรี!!!
กรุณาติดต่อได้ที่ 087-594-4720, Facebook Inbox หรือ LineID = @cradlesmile ศูนย์เราตั้งอยู่ที่ SCB Park Plaza@สี่แยกรัชโยธิน


                                      

 

มารู้จัก EF กันนะคะ


Executive functions* คือกระบวนการความคิดที่ทำให้เรารู้จักวางแผน มุ่งมั่น มีสมาธิจดจ่อ สามารถจำคำสั่งและทำงานหลายๆ อย่างได้สำเร็จลุล่วง เปรียบได้กับระบบการควบคุมการบินที่สามารถบริหารจัดการการขึ้นและลงจอดของเครื่องบินที่วุ่นวายในหลายๆ รันเวย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สมองต้องการทักษะเหล่านี้เพื่อช่วยขจัดสิ่งที่ทำให้ไขว้เขว รู้จักจัดลำดับความสำคัญของงาน รู้จักตั้งเป้าหมายและทำให้สำเร็จตามเป้าที่ตั้งไว้ รวมถึงรู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเองต่อแรงกระตุ้นต่างๆ ที่เข้ามาได้
การทำงานชิ้นหนึ่งๆ ให้ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องใช้ทักษะชีวิต (executive functions) หลายๆ ด้านอย่างผสมกลมเกลียวกัน ซึ่งทักษะหลักที่เป็นพื้นฐานประกอบไปด้วยการทำงานของสมองใน 3 ด้านคือ

  1. Working memory เป็นตัวควบคุมความสามารถในการกักเก็บและจัดการกับข้อมูลที่เข้ามาในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อนำข้อมูลสำคัญออกมาใช้งานในชีวิตประจำวัน ทำให้เราสามารถจำเบอร์โทรศัพท์ได้นานพอก่อนที่จะกดโทรออก ทำให้เราสามารถกลับไปอ่านนิตยสารที่ค้างไว้ได้ถูกที่หลังจากหันไปคุยกับเพื่อน ทำให้เด็กๆ สามารถทำตามคำสั่งที่มีหลายขั้นตอนได้โดยไม่ต้องพูดซ้ำ
  2. Inhibitory control เป็นทักษะที่เราใช้ควบคุมและขจัดความคิดและแรงกระตุ้นต่างๆ ที่เข้ามา ทำให้สามารถอดทนอดกลั้นต่อสิ่งล่อใจและสิ่งเร้าเย้ายวน หยุดคิดก่อนที่จะลงมือทำ ทักษะนี้ยังทำให้เราสามารถเลือกที่จะจดจ่อกับงานที่ทำอยู่ รู้จักจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังของงาน และรู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเอง
  3. Cognitive or mental flexibility เป็นความสามารถในการปรับเปลี่ยนความคิดและปรับตัวได้อย่างว่องไวต่อสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงที่เข้ามา ทักษะนี้จะช่วยให้เราตระหนักถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นและพยายามแก้ไขข้อผิดพลาดนั้น ทำให้รู้จักคิดนอกกรอบ รู้จักปรับเปลี่ยนวิธีในการจัดการกับสิ่งต่างๆ เมื่อมีข้อมูลใหม่เข้ามา เด็กๆ จะใช้ทักษะนี้ในการเรียนรู้ข้อยกเว้นไวยากรณ์ภาษา ลองวิธีต่างๆ ในการทดลองวิทยาศาสตร์จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ รวมถึงพยายามคิดหาวิธีแก้ไขเมื่อมีปัญหากับเพื่อน

การวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่าคนเราไม่ได้เกิดมาพร้อมกับทักษะชีวิตเหล่านี้ แต่เราสามารถพัฒนาทักษะนี้ให้เกิดขึ้นได้ โดยจะพัฒนาได้มากน้อยขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูที่แต่ละคนได้รับในวัยเด็ก เด็กในวัย 1 ขวบจะเริ่มแสดงให้เห็นถึงทักษะพื้นฐานเหล่านี้บ้างแล้ว ความสามารถของเด็กจะก้าวกระโดดในช่วง 3-6 ขวบ ดังนั้น ช่วง 1-6 ขวบจึงเป็นโอกาสทองในการสร้างทักษะชีวิตพื้นฐานให้เกิดขึ้น ซึ่งเค้าจะสามารถพัฒนาทักษะนี้ในระดับที่ซับซ้อนมากขึ้นเมื่อโตขึ้น ทักษะนี้จะติดตัวเค้าไปและนำไปใช้ได้ตลอดชีวิต สอดคล้องกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และงานวิจัยที่พบว่าเด็กที่ได้รับการพัฒนาด้านทักษะชีวิตตั้งแต่วัยก่อนเข้าเรียนจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่ส่งผลให้เด็กมีผลการเรียนดี มีปฏิสัมพันธ์ในทางบวกกับผู้อื่น ตลอดจนเป็นพื้นฐานในการสร้างคนให้เป็นคนดีมีศีลธรรมด้วย


*http://developingchild.harvard.edu/key_concepts/executive_function/